🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻
🌼 ความรู้ที่ได้รับ 🌼
วันนี้อาจารย์ให้ออกมาทำการทดลองอีกครั้งก่อนที่จะออกไปทำการทดลองกับเด็กๆ ในนสถานที่จริง เพื่อดูความพร้อมและหาข้อที่ต้องปรับปรุงของแต่ละกลุ่มอีกครั้ง
" การทดลองวิทยาศาสตร์จะมีสาระทางวิทยาศาสตร์เป็นหัวใจหลัก
และมีสาระทาง คณิตศาสตร์ + ภาษา เป็นเครื่องมือ "
🌸 กลุ่มที่ 1 : การแยกเกลือ พริกไทย 🌸
🌸 กลุ่มที่ 2 : ลูกโปร่งพองโต 🌸
🌸 กลุ่มที่ 3 : การลอยจมของน้ำมัน 🌸
🌸 กลุ่มที่ 4 : ภูเขาไฟลาวา 🌸
🌸 กลุ่มที่ 5 : โลกของแสงสีและรวดลายพิศวง 🌸
🌸 กลุ่มที่ 6 : ลูกข่างหลากสี 🌸
🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻
🌼 กิจกรรมที่ 1 ภาพเคลื่อนไหว 🌼
อาจารย์แจกกระดาษให้คนละ 1 แผ่น จากนั้นตัดครึ่งตามแนวยาว
จากนั้้นนำกระดาษที่ตัดครึ่งมาพับตามแนวนอนโดนให้กระดาษด้านบนเกินด้านล่าง 1 นิ้ว
จากนั้นให้วาดรูปลงบนกระดาษโดยให้เป็นภาพที่มีเนื้อหาที่ต่อเนื่องกัน
เมื่อเราเปิด ปิด กระดาษไปมาสลับการเร็วๆ จะทำให้เราเห็นเป็นภาพเคลื่อนไหว เนื่องจากตาเรามองสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ทัน และส่งการรับรู้ไปที่สมอง ทำให้สมองของเราตีความไม่ทัน และทำให้สมองของเราตีความผิดเพี้ยนไปจึงทำให้เราเห็นภาพที่เหมือนจริง หรือที่เรียกว่า ภาพลวงตา
🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻
🌼 กิจกรรมที่ 2 ภาพหมุน 🌼
นำกระดาษที่เหลือจากการทำกิจกรรมที่ 1 มาตัดครึ่ง และตัดครึ่งอีกหนึ่งครั้ง
จากนั้นให้วาดรูปสิ่งที่สัมพันธ์กัน ลงในกระดาษทั้ง 2 แผ่น โดยแต่ละแผ่นต้องอยู่ในตำแหน่งที่สอดสัมพันธ์กัน
จากนั้นใช้เศษกระดาษมันม้วนให้แข็งๆเพื่อใช้เป็นก้านเพื่อใช้จับในการหมุน และติดกระดาษทั้ง 2 แผ่นเข้าด้วยกัน โดยสอดก้านไว้ตรงกลาง
เมื่อหมุนก้านเร็วๆ จะเห็นเหมือนภาพทั้ง 2 ภาพนี้เป็นภาพเดียวกัน โดยใช้ทฤษฎีภาพติดตา หมายถึง ความรู้สึกในการเห็นภาพครั้งนึงอยู่ในสมองชั่วขณะทั้งๆ
ที่ไม่มีภาพของวัตถุนั้นอยู่บนจอภาพนั้นอยู่แล้ว คนปกติจะมีระยะเวลาการเห็นภาพติดตาประมาณ
10-15 ภาพต่อวินาทืและหากในระยะเวลาดังกล่าวมีภาพใหม่ปรากฏขึ้นมาแทนที่สมองของมนุษย์จะเชื่อม
โยงสองภาพเข้าด้วยกัน และหากมีภาพต่อไปปรากฏขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน
ก็จะเชื่อมโยงภาพไปเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าชุดภาพนิ่งที่แต่ภาพนั้นมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยหรือเป็นภาพที่มี
ลักษณะขยับเคลื่อนไหวต่อเนื่องกันอยู่แล้ว
เมื่อนำมาเคลื่อนที่ผ่านตาเราอย่างต่อเนื่องในระยะเวลากระชั้นชิด
เราจะสามารถเห็นภาพนั้นเคลื่อนไหวได้
🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻
🌼 กิจกรรมที่ 3 ประดิษฐ์ของเล่นจากกระดาษ 🌼
อาจารย์ให้ประดิษฐ์ของเล่นจากกระดาษที่เหลือจากการทำกิจกรรม โดยให้ประดิษฐ์ของเล่น ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาตร์แล้วให้ออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน ดิฉัน เลือกทำ กบ
กบ กับ วิทยาศาสตร์
การดึงสปริงให้ยืดออกจะมีการทำงาน เพราะมีแรงกระทำต่อสปริง ทำให้สปริงยืดตามแนวแรงถ้าสปริงยืดมากงานที่ทำก็จะมีค่ามาก ขณะที่ดึงสปริงให้ยืดออกหรือกดให้หดสั้นจะมีพลังงานสะสมอยู่ในสปริง เรียกว่า
พลังงานศักย์ยืดหยุ่น (elastic
potential energy) เมื่อทำการปล่อยสปริง
จากพลังงานศักย์ยืดหยุ่นจะเปลี่ยนเป็น พลังจลน์ พลังงานจลน์
คือพลังงานที่เกิดกับวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่
🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻
🌼 คำศัพท์ 🌼
1. Elastic
potential energy พลังงานศักย์ยืดหยุ่น
2. Mechanical energy พลังงานกล
3. Kinetic energy พลังงานจลน์
4. Mirage ภาพลวงตา
5. Image retention การคงอยู่ของภาพ
🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻
🌼 การประเมิน 🌼
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์คอยให้คำปรึกษา เกี่ยวกับการพูดคุยกับเด็ก และการเก็บเด็ก รวมทั้งการตั้งคำถาม
ประเมินเพื่อน : เพื่อนๆมีความตั้งใจ และคอยจดข้อเสนอแนะของอาจารย์ และคอยให้ข้อเสนอแนะแก่เพื่อน
ประเมินตนเอง : รับข้อเสนอแนะของอาจารย์และเพื่อน และคอยให้ข้อเสนอแก่เพื่อน
🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻🌻
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น